วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

Solo ลุยเดี่ยว Bio Laboratory ชั้น 3 Part 3 [Wizard Solo]



     กลับมาอีกครั้งกับการ Solo เดี่ยวใน  Bio Laboratory ชั้น 3 หลังจากที่ผมได้แนะนำการ Solo ด้วยอาชีพ Hunter ลุยเดี่ยว และ Monk + Hunter แบบเปิด 2 จอไปแล้ว มาคราวนี้ Wizard น้อยขอ Solo เดี่ยวกันบ้าง แต่อาชีพนักเวทย์นั้นก็ค่อนข้างจำกัดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นมอนเป้าหมายของเราจึงน้อย ซึ่งอาจจะลำบากกว่าอาชีพสายอื่นๆ แต่เพื่อเป็นแนวทางกับ Wizard ที่ต้องการท้าทายกับเหล่าโคลนนิ่ง ผมจึงอยากนำเสนอครับ

Map :
ฺBio Lap 3
Monster Target : 
Whitesmith Harword Alt-Eisen
HP : 78,690
Weakness : Wind [200%]

Skill :

Jupiter Thunder Lv. 3 และ Lv. 10


- โดยใน Lv. 3 ใช้เปิดให้มอนเตอร์กระเด็นไปก่อนครับ โดยมอนเตอร์จะโดนทั้งหมด 5 Hit
- จากนั้นจึงจัด Lv. 10 รัวๆได้เลย ซึ่งจุดเด่นของสกิลนี้คือดีเลย์น้อยมาก ทำให้ร่ายรัวๆใส่ได้เลย

Equipments :


   ปัญหาสำคัญก็คือถ้าเราใช้สกิล Jupiter Thunder นี้มอนเตอร์จะกระเด็นถอยไป ถ้าไม่ใช้สุดกำแพงมันก็จะกระเด็นไปเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อความรัวและเร็วเราต้องลากมาประชิดกำแพงเสียก่อน ยังไง Whitesmith มันก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ยกเว้นเราไปจะเอ๋เจออาชีพอื่น ก็ซวยไป ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก เราลองมาดูคลิบตัวอย่างกันเลยดีกว่าครับ แล้วเจอกันบทความหน้าที่ Ragnarokep5.blogspot.com ครับ



วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

Solo ลุยเดี่ยว Bio Laboratory ชั้น 3 Part 2 [Hunter & Monk]

    หลังจากบทความแรก Solo ลุยเดี่ยว Bio Laboratory ชั้น 3 Part 1 ผมได้นำเสนอการเก็บเลเวลด้วย Hunter คนเดียวไปแล้ว มาคราวนี้พระเอกผู้ทำ Damage ก็ยังคงเป็น Hunter เหมือนเดิม ต่างกันตรงที่ผมจะนำ Monk มาใช้   Blade Stop ซึ่งจะช่วยหยุดการโจมตีของมอนเตอร์ได้ (เฉพาะการโจมตีแบบกายภาพ การใช้เวทมนต์ไม่สามารถหยุดได้)


ฺBio Lap 3


Job : Hunter & Monk




Information : 2 Screen Ragnarok Online

Skill : 


Double Starf  : โจมตีด้วยลูกธนู 2 ครั้งซ้อนกัน โดยมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นคิดจาก ATK ดังนี้ (180+20*SkillLV)%.



Black Stop : หยุดการเคลื่อนไหวและการโจมตีของมอนเตอร์ (ยกเว้นบอส) โดยสกิลเลเวล 5 นั้นสามารถหยุดการโจมตีได้ถึง 1 นาทีเลยทีเดียว

[*** หลายคนคงจะอัพที่เลเวล 3 จะหยุดได้ที่ 40 วินาทีนะครับ]

Target : 


ขออธิบายความยากง่ายของแต่ละตัวนะครับ

- Asscross Eremes จะยากตรงที่มันดำดินอยู่ทำให้เรากด Blade Stop ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการกดสกิลRuwach ไว้ก่อนครับ


- Whitesmith Harword เป็นเป้าหมายหลักเลยครับ สามารถฆ่าง่ายมากๆ

- Lord Knight Seyren ความยากอยู่ตรงที่มันจะใช้สกิลระยะไกล เช่นSpear Boomerang กับสกิลSpiral Pierce ซึ่งรุนแรงมากทีเดียวดับเลย เราก็สามารถแก้ทางโดยกด Pneuma รอมันเดินมาใกล้ๆแล้วค่อยกด Blade Stop

- Highpriest Mageleta ยากตรงที่มันจะใช้สกิลใบ้ [  Lex Divina] ทำให้เราใช้ Blade Stop ไม่ได้ ดังนั้นเราควรเตรียมGreen Potion ติดตัวมาด้วยนะครับ และมีอีกปัญหาที่สำคัญคือมันจะใช้ Assumptio ทำให้เราฆ่ามันยากขึ้นครับ

** ในส่วนของ Sniper Cecil นั้นจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เราสามารถ Pneuma กันสกิลระยะไกลของมันก่อนได้ และกด Blade Stop ได้เลย แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเราจะกดทันหรือไม่เท่านั้นเอง

** ส่วนของ Highwizard Kathryne ไม่แนะนำให้ไปต่อกรกับมันครับ เพราะเรา Blade Stop ไม่ได้ แนะนำให้เอาฮันใส่ลูกนูวิญญาณ [ Immaterial Arrow] ยิงสดเลยครับ (แต่ต้องอยู่ในระยะที่พอดีด้วยนะครับ ไม่งั้นมันฟรอสจูปิเตอร์ทีเดียว มีนอน !!) [สามารถใส่เสื้อการ์ดม้าน้ำกันฟอสมาป้องกันโดนฟอสก็ช่วยได้ดีระดับหนึ่งนะครับ]